แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเก็บไฟฟ้าของรถยนต์เอาไว้ใช้เลี้ยงอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ การป้องกันเรื่องเหล่านี้เราจึงต้องตรวจเช็กและเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อครบตามกำหนด
การเลือกขนาดแอมแปร์
ควรเลือกแบตเตอรี่รถยนต์กับแอมแปร์ให้พอดีหรือมากกว่าเท่านั้น แบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์มากกว่า จะสามารถใช้งานได้ทนทานกว่าแบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์น้อยกว่า (แต่แอมป์ยิ่งมากราคายิ่งสูง) ดังนี้
รถเก๋ง เครื่อง 1200-1900 cc ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45-60 แอมป์
รถเก๋ง เครื่อง 2000-3000 cc ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60-75 แอมป์
รถเก๋ง เครื่อง 2000-3000 cc ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 75 แอมป์ ขั้วจม
รถเก๋ง เครื่อง 2800-4000 cc ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 100 แอมป์ ขั้วจม
รถกระบะ เครื่อง 2000-3000 cc ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 70-90 แอมป์
การเลือกประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์
แบตเตอรี่น้ำ (กรดตะกั่ว)
เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถดูแลรักษารถยนต์ได้เป็นประจำและใช้รถเป็นประจำทุกวัน เพราะต้องเติมน้ำกลั่นเป็นอย่างน้อยเดือนละครั้ง
ข้อดี – ราคาถูก, มีอายุการใช้งานยาวนาน
ข้อเสีย – ต้องเติมน้ำกลั่นอยู่สม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมไว
แบตเตอรี่กึ่งแห้ง MF (maintenance free)
ออกแบบมาเพื่อให้การสูญเสียน้ำกลั่นน้อยลง (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการคิดสูตรผสมแผ่นธาตุใหม่ผสมแคลเซียม (calcium) ทำให้การระเหยของไอกรดต่ำ ต้องเติมน้ำกลั่นบ้างตรวจเช็กอย่างน้อยครึ่งปีครั้ง)
ข้อดี – ราคาปานกลาง, อายุการใช้งานปานกลาง
ข้อเสีย – ต้องเติมน้ำกลั่นเป็นบางครั้ง บางคราว
แบตเตอรี่แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery)
แบตเตอรี่แห้งที่ผลิตใช้น้ำกรด ด้วยเหตุผลทางภูมิอากาศของบ้านเราที่ค่อนข้างร้อนแต่ก็จะถูกซีลปิดไว้ไม่สามารถเติมน้ำกลั่นได้ ใช้ง่ายไม่ต้องดูแลรักษาแบตเตอรี่เลยเหมาะกับรถที่ไม่ได้ขับบ่อย
ข้อดี – ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
ข้อเสีย – ราคาแพง, อายุการใช้งานสั่น
การ เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ นั้นสามารถยึดหลัก 2 ข้อนี้เป็นหลักในการเลือกขนาดของแบตเตอรี่รถยนต์ให้เหมาะสมกับรถที่สุด
19 Oct 2013
www.kiatrungsub.com